ความหมายของการเล่นอิสระ (Free Play)
“การเล่น” (play) คือกระบวนการถูกเลือกโดยอิสระ เกิดขึ้นจากแรงจูงใจ (แรงกระตุ้น) ภายใน ตามธรรมชาติตั้งแต่กำเนิด เด็กจะกำหนดและควบคุมเนื้อหาการเล่นตามสัญชาติญาณตามความ ต้องการ เหตุผลของตัวเด็กเอง หรือจัดโครงสร้างโดยเด็กๆ เองการเล่นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกบังคับ ไม่มี เป้าหมาย หรือไม่เห็นแก่รางวัลใดๆ การเล่นเกิดขึ้นเมื่อไรหรือที่ไหนก็ได้ ตามแต่โอกาสจะอำนวย “การเล่น คือ การแสดงออกอย่างตั้งใจ ร่าเริงยินดีและมุ่งมั่น (ไบรอั้น ชูตตั้น-สมิธ)
– ลักษณะสำคัญของการเล่น” คือ มีความสนุก มีความไม่แน่นอน มีความท้าทาย และ การไม่มีความคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ปัจจัยเหล่านี้มีทำให้เกิด ความสุข ความสนุกสนานและเป็นแรงจูงใจให้อยากเล่นต่อไป เล่นแล้วอยากเล่นอีก
การเล่นไม่ใช่ทักษะ แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การเล่นจะทำให้เราเห็นตัวเรา ค้นพบตัวเอง ชอบไม่ชอบอะไร พื้นที่ส่วนตัวคืออะไร ความสุขจากการเล่น คือ เกิดอิสระ ความสงบ การที่ คนเข้าถึงความสุขและความสงบค้นพบได้จากการเล่น เด็กสามารถเข้าถึงสุขภาวะทางปัญญา คือเข้าถึงความสุข ความสงบ ด้วยตนเอง
ประโยชน์ของการเล่นอิสระ
การเล่นอิสระ (Free Play) มีประโยชน์มากมายสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นการเล่นที่ไม่มีข้อกำหนดตายตัวและเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ประโยชน์ที่สำคัญของการเล่นอิสระ ได้แก่:
1. พัฒนาจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
การเล่นอิสระช่วยให้เด็กคิดสร้างสรรค์ผ่านการสร้างเรื่องราวหรือบทบาทต่าง ๆ โดยไม่มีข้อจำกัด เช่น การสร้างบ้านจากบล็อกไม้ หรือการเล่นบทบาทสมมติเป็นตัวละครในจินตนาการ
2. เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหา
เมื่อเด็กเผชิญกับปัญหาระหว่างการเล่น เช่น การหาวิธีสร้างสิ่งของหรือหาทางออกในสถานการณ์สมมติ พวกเขาจะได้ฝึกการคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา
3. พัฒนาการทางอารมณ์
การเล่นอิสระช่วยให้เด็กได้แสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึกผ่านการเล่น ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
4. พัฒนาทักษะทางสังคม
หากเป็นการเล่นแบบกลุ่ม การเล่นอิสระช่วยให้เด็กเรียนรู้การแบ่งปัน การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น
5. ส่งเสริมความเป็นอิสระ
เด็กจะได้เรียนรู้การตัดสินใจและการจัดการกิจกรรมด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคำแนะนำจากผู้ใหญ่เสมอไป
6. พัฒนาการทางร่างกาย
การเล่นอิสระที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว เช่น วิ่งเล่น ปีนป่าย หรือเล่นทราย ช่วยส่งเสริมการพัฒนากล้ามเนื้อและความคล่องแคล่วของร่างกาย
7. ช่วยสร้างความสุขและผ่อนคลาย
การเล่นอิสระเป็นช่วงเวลาที่ผู้เล่นสามารถปลดปล่อยความเครียดและเพลิดเพลินไปกับการทำสิ่งที่รักโดยไม่ถูกจำกัด
ตัวอย่างการเล่นอิสระ:
- การเล่นบทบาทสมมติ เช่น คุณครู นักสำรวจ หรือเจ้าหญิง
- การสร้างของเล่นจากวัสดุที่หาได้รอบตัว
- การเล่นในธรรมชาติ เช่น เก็บก้อนหินหรือใบไม้เพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ
- การเล่นกับลูทพาร์ท
วิธีการส่งเสริมการเล่นอิสระ
ดูแลความปลอดภัยอยู่ห่างๆ ประเมินความเสี่ยงที่นึกถึงประโยชน์ในการพัฒนาสูงสุดของเด็ก
ผู้ใหญ่ทุกคนเป็นผู้ดูแลการเล่นได้เพียงแค่เข้าใจธรรมชาติการเล่นของเด็ก
ยอมรับในความแตกต่างและความสามารถของเด็กโดยไม่เลือกเพศ อายุ ศาสนา เชื้อชาติ ฯลฯ
สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น สร้างสัมพันธ์ที่ดี เป็นมิตรต่อเด็กทุกคน เป็นเพื่อนเล่น ให้กำลังใจ
มีความคิดที่เปิดกว้าง พร้อมรับสิ่งแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นจากการเล่นสร้างสรรค์ของเด็ก
เคารพในการตัดสินใจของเด็กทุกคนอย่างไม่มีอคติ
มีความยืดหยุ่น ประยุกต์ดัดแปลงและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมตามความต้องการของเด็ก
มีความยุติธรรม รับฟังและเคารพความคิดเห็นหลากหลาย
เชื่อในจินตนาการสร้างสรรค์ของเด็กและของตัวเอง เพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นผ่านการเล่นของเด็ก